การใช้ indicator ต่าง ๆ Envelope Indicator
บทความนี้เป็นการใช้ Indicator ที่ปรากฏอยู่ใน MT4 ซึ่งเรายังคงอยู่กับ Indicator ที่สามารถบอกเทรนด์ได้ เครื่องมือที่ใช้บอกเทรนด์ตัวหนึ่งคือ Envelope เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้รับความนิยมมากนักในกลุ่มเทรดเดอร์คนไทย อย่างไรก็ตามมันเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
Envelope indicator นั้นมาจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สร้างกรอบบนล่างให้กับการเคลื่อนไหวของราคา มีค่ามาตรฐานอยู่ที่ 14 เราสามารถปรับค่าเฉลี่ยต่าง ๆ ให้มันอยู่ในค่าที่คุณคิดว่าเหมาะสมที่สุดได้
รูปที่ 1 Envelope indicator
รูปร่างของ Envelope เหมือนกรอบของราคาที่ราคาควรจะเคลื่อนไหวให้ตามทิศทางของมัน การใช้ Envelope จึงสามารถทำได้หลายแบบ เรามาดูรายละเอียด ของ Indicator กันก่อน
รายละเอียดของ Envelope
รูปที่ 2 การตั้งค่า Envelope
Envelope คือ เส้นกรอบ 2 กรอบ คือ กรอบบน และกรอบล่าง นั่นคือ เส้น 14 SMA +(14x 0.05) ขณะที่เส้นกรอบล่างคือ 14SMA – (14×0.05) นั่นคือที่มาของเส้น ดังนั้นจุดไหนบ้างที่เราสามารถปรับค่าพารามิเตอร์ของเครื่องมือได้ คือ
SMA เราสามารถปรับค่าให้เหมาะสมได้ ซึ่งการที่จะตั้งค่าให้เหมาะสมก็ต้องดูวิธีการเทรดว่าจะเทรดด้วยวิธีการเทรดแบบแกว่งตัวต้องปรับค่า Indicator ให้สามารถครอบกรอบการเคลื่อนไหวของราคาได้ ซึ่งค่าที่เหมาะสมสำหรับการเทรดแบบกรอบแกว่งตัวคือ 50 SMA จะทำให้ได้กรอบราคาตามรูปที่ 3
การปรับค่า SMA เป็น EMA คือค่าเฉลี่ยแบบ Exponential ที่ให้ค่าน้ำหนักกับเวลาปัจจุบันมากกว่าค่าในอดีต การปรับค่าแบบนี้ทำให้ราคาในแทงที่ใกล้ที่สุดมีอิทธิพลสูงต่อการคำนวนซึ่งทำให้ Envelope ตอบสนองต่อราคาและสะท้อนความเป็นจริงเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Envelope ก็จะผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้เร็วเช่นเดียวกัน
การปรับค่า Indicator ของ Envelope ตัวสุดท้ายคือ การตั้งค่าใช้ราคาเปิดราคาเปิด มันคือ การเลือกการใช้ราคาบนแท่งเทียนที่จะเอามาคำนวณค่าเฉลี่ย เช่น ถ้าเราเลือก close มันก็คือการใช้ราคาปิดของแท่งเทียนมาคำนวณค่า SMA นั่นเอง เช่นเดียวกันกับการเทรดแบบ Trading Range คือการเทรดแกว่งตัว เพื่อจะให้การตีกรอบของ Envelope ครอบคลุม เราต้องเลือกราคาให้สมเหตุสมผล เช่น ราคากลาง Median Price (High+Low/2) ซึ่งเป็นราคากลางของ High และ Low ทำให้ราคาไม่มีความลำเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากนัก
การใช้งาน
Envelope สามารถใช้ในการวิเคราะห์เป็นรูปแบบหลัก ๆ ได้หลายแบบ เช่น การใช้เป็น Chanel ของราคา คือการสร้างกรอบให้ราคาวิ่งอยู่ในกรอบ ซึ่งจากรูปที่ 1 จะเห็นว่าราคาวิ่งอยู่นอกกรอบของราคา เราต้องทำการปรับขยายกรอบ ตั้งค่าใหม่ให้มันครอบการเคลื่อนไหวของราคา ก็เหมือนกับการใช้ Overbought หรือ Oversold นั่นแหละ เมื่อราคาแตะเส้นล่างก็คือ มีการ Sell เยอะเกินไปเราควรเข้า Buy ในระดับราคานั้น สามารถดูตัวอย่างได้จากกราฟ ต่อไปนี้
รูปที่ 3 การใช้ Envelope ในการเทรด
ที่มา https //www.investopedia.com/terms/e/envelope.asp
รูปที่ 2 แสดง การใช้ Envelope ในการบอกจุดเข้าซื้อว่าตรงไหนเป็นจุด Overbought หรือ Oversold ซึ่งเหมือนกับกรอบของราคาที่ราคาจะเคลื่อนไหวภายในกรอบราคานั้น ๆ
นอกจากวิธีการที่กล่าวมา เราสามารถใช้ Envelope ในการบอกเทรนด์ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นเครื่องมือที่บอกเทรนด์ได้ยอดเยี่ยม เพราะ 2 คุณสมบัติของมัน คือ มันสามารถกรอง Side Way ออกจากเทรนด์หลัก และ 2 มันสามารถบอกได้ว่าตอนนี้ตลาดกำลังอยู่ในเทรนด์หรือเปล่า แต่ต่อให้เราจะรู้ข้อเด่น 2 ข้อนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราสามารถเอาชนะตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างการใช้งาน Envelope ในการบอกเทรนด์ ในรูปต่อไปนี้
รูปที่ 4 แสดงเทรนด์และ sideway จาก Envelope
จากรูปที่ 4 จะเห็นลักษณะราคาอยู่ 2 แบบ คือเทรนด์ในวงกลมสีแดง และ Sideway ในวงกลมสีเหลือง การเคลื่อนไหวของ 2 รูปแบบมีลักษณะแตกต่างกัน เรามาว่ากันตรงเทรนด์ก่อน
ในรูปข้างต้น Envelope ตั้งค่า ใช้ค่ามาตรฐานคือ SMA14 Close price หมายความว่าท่านผู้อ่านไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ในวงกลมสีแดงจะเห็นราคาที่อยู่เหนือเส้น upper envelope คือสีน้ำเงิน เมื่อราคาอยู่สูงกว่าเส้นสีน้ำเงิน คือเทรนด์ขาขึ้นกำลังจะเริ่มต้น การใช้หลักการนี้สังเกตุเทรนด์และนำมาใช้เป็นจุดเข้าเทรดเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ขณะที่วงกลมสีแดง วงกลมที่ 2 แสดงราคาต่ำกว่าเส้น lower band ซึ่งราคาเคลื่อนต่ำกว่าเส้น แสดงเทรนด์ขาลงนั่นเอง
อย่างที่ได้บอกในตอนแรกว่า Envelope สามารถบอก Side Way ได้ด้วย เราสามารถดูได้จากการที่ราคาจะเคลื่อนไหวทับกรอบข้างใน Envelope ในวงกลมสีเหลือง ทำให้เราทราบว่าเทรนด์ช่วงนี้จะแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ท่านสามารถปรับให้มันกว้างกว่านี้อีกหน่อยเพื่อระบุเทรนด์ได้ชัดเจนตามความถนัดของผู้ใช้
ทีมงาน www. .com